EMMA Thailand United
5 พฤษภาคม 2557 หลังจากพวกเราชาวไทยได้ชมพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯที่พระองค์ทรงทรงเสด็จพระราชดำเนินออกจากพระราชวังไกลกังวล หัวหิน จังหวัดประจวบฯในตอนเช้าแล้ว ตอนค่ำๆพวกเราที่มีอาชีพประกอบกิจการเครื่องเสียงรถยนต์บางส่วนได้มาร่วมรับประทานอาหารค่ำกัน และได้หารือกันเกี่ยวกับ EMMA ในประเทศไทย
เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. พวกเราได้นัดหมายกันไปพบปะกันที่ร้าน Im Café & Bistro ย่านรัตนาธิเบศร์ ราชพฤกษ์ โดยมีหัวหน้าทีมบางทีมมาร่วมเช่น DLS Mirage Rocket Sound และ UDC เรียงตามอักษร ในการนี้ EMMA Thailand ได้เชิญคุณนพพร โถวสกุล และคุณปกรณ์ หมั่นธรรม สองผู้ตัดสินแนวหน้าของประเทศไทยไปร่วมในงานนี้ด้วย
สมเกียรติ พุคยาภรณ์ ผู้ดูแล EMMA Thailand ได้เล่าที่ไปที่มาของการเข้ามารับผิดชอบ EMMA ในครั้งนี้เป็นความจำเป็น เพราะเนื่องจากที่ประชุมสมชิก EMMA ของเอเชียที่เมือง Salzburg ประเทศ Austria เมื่อวันที่ 20 มีนาคมได้มีมติตามคำเสนอของแต่ละประเทศ และประเทศไทยได้ขอเป็นเจ้าภาพในวันที่ 29-30 พฤษจิกายน ซึ่งจะเป็นเวทีสุดท้าย และประเทศไทยได้รับเกียรติในการเป็นเวทีประกาศผล และมอบรางวัล ซึ่งจะมีทีมแข่งจากประเทศต่างทั่วเอเชียเข้าร่วมลุ้นผลการแข่งขัน ประเทศไทยจึงจำเป็นต้องดำเนินกิจกรรม EMMA ในปีนี้ จะปล่อยให้เว้นว่าง เว้นวรรค คงจะไม่งาม
คุณสมชาย หรือ เฮียบัก จาก UDC ได้แสดงความเห็นนำว่า “เราต้องจัดแข่ง” และทุกๆคนก็เห็นด้วย ด้วยเหตุผลที่คล้ายๆกัน จึงตกลงจะจัดให้มีการแข่งขันอย่างน้อย 3 สนาม โดนสนามแรกคงจะเป็นในกรุงเทพในเดือนกรกฎาคม สนามที่สองน่าจะเป็นภาคตะวันออก หรือ ภาคกลาง ในเดือนกันยายน และสนามชิงแชมป์ประเทศไทยในวันที่ 29 พฤศจิกายน หนึ่งวันก่อนการชิงแชมป์เอเชียเวทีสุดท้ายที่กรุงเทพ ในวันที่ 30 และทั้งสองวันจะตัดสินโดยคณะทีมผู้ตัดสินผสมระหว่างยุโรปและเอเชีย ทีมที่เดินสายตัดสินชิงแชมป์เอเชียในปีนี้ทั้งหมด
ทุกคนเห็นพ้องต้องกันที่จะให้จัดอบรมผู้ตัดสิน EMMA เพื่อให้ทั้งนักแข่ง บุคลากรของบริษัท ห้าง ร้าน และบุคคลทั่วไปได้สามารถเข้าถึง และรู้ลึกถึงวิธีการตัดสินของผู้ตัดสิน EMMA ถึงแม้ว่าอาจจะไม่ได้ทำหน้าที่ผู้ตัดสินในปีนี้ โดยตกลงจะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 31 พฤษภาคม และวันอาทิตย์ที่ 1 มิถุนายน ที่โรงแรมเจ้าพระยาปาร์ค ห้องรัชดา 5 ถนนรัชดา กรุงเทพฯ
พวกเราได้คุยกันถึงการเป็นเจ้าภาพ Asia Final ในปีนี้ เฮียบักได้เล่าถึงประสบการณ์ที่ได้ร่วมพิธีประกาศและมอบรางวัลเมื่อปีที่แล้วที่ประเทศจีนว่า มีเพื่อนบ้านกลุ่มหนึ่งจำนวนไม่มาก แต่เต็มไปด้วยความสามัคคีและภูมิใจในชาติของตัวเอง ส่งเสียงเชียร์สู้กับนักแข่งเจ้าบ้านอย่างประเทศจีนได้อย่างที่ได้ใจคนดูเอาเสียจริงๆ พวกเขามาจากต่างร้าน ต่างทีมกัน แต่ในวันนั้นเขาใส่เสื้อทีมชาติของเขา ทำให้ผู้ร่วมงานประทับใจเอาอย่างมากเลย เป็นเรื่องที่เราควรทำการบ้านกันอย่างจริงจัง ถึงเวลาที่เราจะเป็น Team Thailand หรือยัง